5 เทรนด์ “คอนเทนต์” สำหรับ “ทำการตลาดยุคใหม่” ที่มีความสำคัญต่อจากนี้

Adisorn Kaewchansilp (Mhee)
2 min readSep 8, 2020

เมื่อพูดถึงการทำคอนเทนต์หลายคนอาจจะคิดว่ามันคือการทำ บทความ วีดีโอ หรือรูปภาพที่เราอยากจะนำเสนอ แต่จริงๆ แล้ว การทำคอนเทนต์มันยังมีปัจจัยอื่น บริบทใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับสังคมยุคใหม่ ที่เข้ามามีบทบาททำให้การทำคอนเทนต์ในสมัยนี้และในอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไป

ในช่วงชีวิตการทำงานโฆษณาและการตลาดกว่า 10 ปี ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลง เทรนด์ต่างๆ การทำคอนเทนต์ที่หลากหลาย และงานออกแบบที่ทั้งน่าชื่นชมและกร่นด่า ทำให้ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า Trend มันช่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หากใครไม่ได้สังเกตุก็อาจจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง จนพลาดท่าเสียทีวนทำสิ่งเก่าๆ ที่เขาไม่สนใจแล้ว

บทความนี้ผมอยากสรุปสั้นๆ ให้เข้าใจง่าย..เป็นข้อๆ กันนะครับ

1. Personalized / Customization

เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป (จริงๆ มันก็มีมานานแล้ว) แต่เราอาจจะเพิ่งเริ่มรู้จักคำนี้กัน นักการตลาดที่เป็นผู้สร้างคอนเทนต์ นั้นได้ใช้การฟังเสียงของผู้บริโภค ลูกค้า กันมาเป็นเวลานาน เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล และเลิกการส่งข้อมูลแบบชุดเดียว ให้กับทุกคนแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอีเมล ข้อความบอร์ดคาส ประชาสัมพันธ์ต่างๆ ข้อมูลแบบชุดเดียวกลายเป็นสิ่งที่ “ทุกคนไม่ต้องการ” อีกต่อไป

ปัจจุบัน เราก็สามารถเลือกได้แล้วว่าเราจะส่งสาร ข้อความ คอนเทนต์เหล่านั้น ไปยังลูกค้าคนไหน เพราะเรามีข้อมูล (Data) ที่คอยส่อง และจับพฤติกรรมพวกเขาว่า เขาอยู่ในบริบทไหน เช่น สถานที่ ชอบทำอะไร เล่นกีฬาอะไร ชอบรูปภาพแบบไหน เทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นตัวช่วยคัดสรรเนื้อหาที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน และส่งออกไปได้อย่างแม่นยำด้วยเครื่องมือการตลาดยุคใหม่ (Martech) ได้อย่างตรงใจ

2. Responsive

ในที่นี้ผมหมายถึง Responsive Design คือการทำคอนเทนต์ให้เหมาะกับทุกๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งเดินต่อมาจาก การส่งข้อมูลที่แตกต่างกัน โฆษณาที่แตกต่าง ทำให้เกิดการตอบโต้ที่ฉับไวขึ้น เมื่อการเข้าชมเนื้อหาของลูกค้าแต่ละคนแตกต่างกันตามความชอบ พฤติกรรมแต่ละคน การตอบสนองตรงนี้ก็จะแตกต่างกัน เหมือนถนนที่มีแยกให้เลือกมากมายเลยแหละ

การทำคอนเทนต์จึงต้องมีความหลากหลายในทุกแพลตฟอร์ม การทำเนื้อหาชุดเดียวกันแล้วลงมันเลยทั้งหมดจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอีกต่อไป ไม่ว่า Twitter / Instagram / Facebook / Google, etc. ทั้งเรื่องของขนาด และระยะเวลาครับ

3. Evergreen

ในที่นี้ผมหมายถึง evergreen content แล้วมันคืออะไร? หลายคนอาจจะสงสัย จะอธิบายให้ฟังคร่าวๆ กล่าวคือ คอนเทนต์นั้นมีหลายประเภท เช่น Tropical / News คือ คอนเทนต์ที่สดใหม่ตามกระแสเหมาะกับ Social Media ส่วน Evergreen Content ก็คือ คอนเทนต์ที่ดีอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม

แล้วมันเป็นไปได้เหรอ? คำตอบ เป็นไปได้ครับ คอนเทนต์ชนิดนี้บางทีเราจะเห็นในคอนเทนต์ที่มีความสามารถเฉพาะทาง เช่น วิธีการซื้อขายคอนโด / รีวิวการทำใบขับขี่ที่ขนส่ง / การดูแลรองเท้าผ้าใบสีขาว อะไรประมาณนี้

คอนเทนต์ประเภทนี้ มักจะเป็นคอนเทนต์ที่มีความจำเป็นต่อทุกคน อยู่ในการดำเนินชีวิตของพวกเรา จะเรียกว่าเป็นฐานข้อมูลหรือคลังความรู้อะไรแบบนั้นก็ได้ เพราะมันจำเป็นต่อใครอีกหลายๆ คน และไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน สิ่งเหล่านี้คนก็ยังค้นหาอยู่

4. Realtime Content

“ลุงพล” ผมใช้คำนี้เลยแล้วกัน เพราะทุกคนจะเข้าใจคำนี้ทันทีว่ามันคือ “กระแส” คอนเทนต์เหล่านี้หลายธุรกิจชอบมากครับ เพราะมันสามารถสร้างเรื่องราว โยงสิ่งที่คนกำลังค้นหาอยู่ ยิ่งหากเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เป็นกระแสอยู่ ก็ยิ่งทำให้คนสนใจ

ยิ่งถ้าคุณกำลังเสพย์ข่าวอะไรอยู่ หรืออ่านในบทสนทนา คอมเมนต์ของคอนเทนต์นั้นๆ คุณจะพบว่ามีหลายคนที่ขายสินค้าโดยอ้างอิงกระแสเหล่านั้น และโยงเรื่องนั้นให้มายังสินค้าและบริการของตัวเอง แต่ก็ต้องยอมรับใน “กระแสลบ” ด้วยว่า หากสิ่งที่เรากำลัง “โหนกระแสอยู่” เป็นกระแสที่เป็นภัยต่อแบรนด์ ก็อาจส่งผลเสียกับแบรนด์ค่อนข้างรุนแรงมากทีเดียว

5. Poll & Conversational

ประโยชน์ของการทำคอนเทนต์ชนิดนี้คือ การได้มาซึ่งข้อมูล (แบบสำรวจ) จากความชื่นชอบการแสดงความคิดเห็นของผู้คน ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ชอบแสดงความคิดเห็น การทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ แม้บางเรื่องเป็นเรื่องแย่ๆ นักธุรกิจบางรายก็ยังชอบครับ (ยิ่งโดนด่ายิ่งดัง) ก็เป็นเรื่องของจิตวิทยาในผู้คนที่ชอบอะไรแบบนี้

ทำให้คอนเทนต์ประเภทนี้มีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน เช่น โฆษณา Benz แต่ใช้รถ BMW ทำให้ผู้คนที่สังเกตเห็น วิพากวิจารณ์ ตั้งข้อสงสัยว่างานนั้นผิดพลาดหรือเปล่า หรือสมัยก่อนที่อิมแพคมากๆ ก็คือ โฆษณาของโฮมโปร ที่ลงหน้ากลางหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เป็นหน้ากระดาษเปล่า แต่มีโลโก้มุมขวาล่างว่าโฮมโปร ก็เป็นที่ฮือฮา และพวกเราก็ถ่ายรูปนำมาโพสบน Social Media

สิ่งเหล่านี้ก็คือ เคล็ดลับการทำคอนเทนต์ของนักการตลาด ที่ถูกคิดวิเคราะห์มาแล้ว ส่วนตัวผมยืนยันว่าสิ่งที่พวกเราเห็นนั้น “ไม่มีอะไรเป็นเรื่องบังเอิญ” ทุกคอนเทนต์ถูกวางแผนมาเรียบร้อยแล้วครับ

หากชอบบทความนี้อย่าลืมแชร์ต่อ และติดตามให้กำลังใจกันได้นะครับ ผมจะนำสิ่งดีๆ ที่ได้รับรู้จากประสบการณ์จริงมาบอกต่อๆ กันครับ

บริษัทผมทำอะไรบ้าง: daidee digital
ติดตามแฟนเพจ: Fanpage และ บล็อกส่วนตัว
แหล่งความรู้ออนไลน์ : เกี่ยวกับการตลาดและธุรกิจ

--

--